1. ด้วยความคิดมากเกินไปของ เอริค เทน ฮาก ทำให้เขาส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเป็นตัวจริง เพื่อที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกเหมือนเดิม เพราะไม่มีประโยชน์อะไร แทนที่จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่ชนะมา
เกมอัด เชลซี พลพรรคปีศาจแดงเล่นดีจริง แต่ส่วนหนึ่ง เพราะทีมสิงห์บลูส์ก็ห่วยแตกเองด้วย
ในการศึกครั้งล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พยายามเล่นเกมรุกด้วยความรวดเร็วเหมือนเดิมนั่นแหละ
แต่ บอร์นมัธ ไม่พลาดง่ายๆ และจ่ายบอลเสียเหมือน เชลซี แถมวางแผนมาดี และมีประสิทธิภาพมากกว่า
2. เกมรุกของปีศาจแดงชุดนี้มีอัตราความสากกะเบือสูงมากครับ
พวกเขาครองบอลบุกมากกว่า และมีโอกาสทำประตูมากกว่า ทว่าจังหวะเข้าทำมันไม่มีความหลากหลาย ไม่มีลูกพลิกแพลง แถมปราศจากจินตนาการอีกต่างหาก
ตลอดทั้งเกมแทบไม่มีจังหวะจบแบบเหน่งๆ ที่ดูว่าน่าจะได้ประตูสุดๆ ต่อเมื่อหาโอกาสเจอก็ไร้ซึ่งความเด็ดขาด ชนิดที่นายทวารทีมเยือนแทบไม่ต้องออกแรงเซฟอะไรเลยด้วยซ้ำ
3. 2 ประตูแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนกะซวก บังเกิดจากความผิดพลาดของตัวเองในจังหวะขึ้นเกมตั้งแต่ในแดน
ประตูแรก บรูโน แฟร์นันด์ส วางบอลไปข้างหน้าขาดน้ำหนักน่าเกลียด แล้วโดนตัดมาโจมตีทันที (คล้ายๆ ประตูที่เสียให้ นิวคาสเซิ่ล แล้วแพ้เลย)
ประตูที่ 2 ลุค ชอว์ ก็วางบอลเข้ากลางพลาดง่ายๆ อีกจากเกมรุกจึงต้องเปลี่ยนฉับพลันเป็นเกมรับจนเสียขบวน
เมื่อคุณเสียบอลในจังหวะที่กำลังเซ็ตเกมรุกง่ายๆ ด้วยความไม่ละเอียดของตัวเองแบบนี้ ตำแหน่งของผู้เล่นในเกมรับก็จะปั่นป่วนกันไปหมด
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมถึงเสียประตู
4. บ่อยครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากจังหวะ ‘ทรานซิตชั่น’ แบบนี้ เพียงแต่เกมนี้ พวกเขาทำได้ไม่แม่นยำ และเด็ดขาดพอ
ในทางกลับกัน เมื่อพวกเขาพลาดในจังหวะแบบเดียวกัน คู่แข่งอย่าง บอร์นมัธ กลับทำได้เด็ดขาดดีนักแล
ขอโทษ…ทั้งที่ค่าตัวของผู้เล่นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
5. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ช่วยให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีความเหนียวแน่นมากขึ้นจริงนะครับ ขอบอก
แต่เพราะความไม่ละเอียดของเพื่อนร่วมทีมทำให้เสียประตูแบบไม่น่าเสีย
เมื่อเป็นฝ่ายตามหลังก็ต้องเร่งเครื่อง แล้วยิ่งเร่งก็ยิ่งพลาดบนความร้อนรน และปราศจากความแน่นอน ก่อนเด๊ดหาคาบ้านอย่างน่าอนาถยิ่งนัก !!!
“บอ.บู๋”