ระเบิดความมันส์กันแบบไม่ต้องหยุดพัก ส่องโปรแกรมการฟาดแข้ง และสถานการณ์ของ ศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 15 ที่จะลงทำศึกกันในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 จะลงสนามฟาดแข้งกันเป็นนัดที่ 15 ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยมีเกมที่น่าสนใจหลายคู่ด้วยกัน โดยเฉพาะเกม “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” ระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี
ฉะนั้น เรามาไล่ดูโปรแกรมการแข่งขันเกมนัดต่อไป พร้อมส่องสถานการณ์ของศึกพรีเมียร์ลีกไปพร้อมกัน ว่าแต่ละทีมจะต้องเจอกับงานยากหรือง่าย และมีโอกาสจะคว้าชัยได้มากน้อยเพียงใดในเกมช่วงกลางสัปดาห์
คืนวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 2566
- 02.30 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เบิร์นลี่ย์ | พรีวิว : TrueID Sports (621) , True Premier Football 3
- 03.15 น. ลูตัน ทาวน์ พบ อาร์เซน่อล | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
คืนวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566
- 02.30 น. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล | พรีวิว : True Premier Football 3
- 02.30 น. ไบรท์ตัน พบ เบรนท์ฟอร์ด | พรีวิว : True Premier Football 6
- 02.30 น. ฟูแล่ม พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ | พรีวิว : True Premier Football 7
- 02.30 น. คริสตัล พาเลซ พบ บอร์นมัธ | พรีวิว : TrueID Sports (621) , True Premier Football 8
- 03.15 น. แอสตัน วิลล่า พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | พรีวิว : True Premier Football 1
- 03.15 น. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เชลซี | พรีวิว : True Premier Football 2 , True 4K (400)
คืนวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566
- 02.30 น. เอฟเวอร์ตัน พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด | พรีวิว : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
- 03.15 น. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | พรีวิว : True Premier Football 3
สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก ในช่วงกลางสัปดาห์ จะแข่งขันกันครบทั้ง 10 คู่ 10 สนาม โดยจะระเบิดความมันส์กันตั้งแต่คืนวันอังคาร 2 คู่ ตามด้วยคืนวันพุธ 6 คู่ และปิดท้ายในคืนวันพฤหัสบดีอีก 2 คู่
ออกสตาร์ทประเดิมความมันส์กันด้วยเกมคู่เด็ด ในช่วงกลางดึกของคืนวันอังคารที่ 5 ธันวาคม เวลา 03.15 น. โดยทีมจ่าฝูงอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่เพิ่งเปิดบ้านเฉือนชนะ ทัพหมาป่า 2-1 ทำให้มี 33 แต้ม ขยับหนีห่างรองจ่าฝูงเพิ่มเป็น 2 แต้ม โดยช่วงกลางสัปดาห์นี้ พวกเขาอาจจะเจอกับงานที่ไม่ยากมากนัก เมื่อจะบุกไปเยือน “เดอะ แฮตเตอร์ส” ลูตัน ทาวน์ ทีมอันดับ 17 ที่ล่าสุดบุกไปพ่าย ผึ้งพิฆาต 1-3 ทำให้หยุดอยู่ที่ 9 แต้มเท่านั้น ทว่าลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะคว้าชัยในลีกเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อนำเป็นจ่าฝูงต่อไปได้หรือไม่ สาวกปืนใหญ่คงต้องรอลุ้นไปพร้อมกัน
จากนั้นในคืนวันพุธที่ 6 ธันวาคม จะมีเกมการแข่งขันถึง 6 คู่ ใน 2 ช่วงเวลา โดยเวลา 02.30 น. จะมีเกมถึง 4 คู่ แต่คู่ไฮไลท์ที่น่าสนใจ คงจะหนีไม่พ้น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ล่าสุดพลิกนรกโกงความตาย เปิดบ้านแซงเอาชนะ เจ้าสัวน้อย ในช่วงท้ายเกมได้แบบสุดดราม่าถึง 4-3 ทำให้ขยับรั้งรองจ่าฝูง จากการมี 31 แต้ม จะบุกไปเยือน “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งถูก เบิร์นลี่ย์ ทีมรองบ๊วยไล่ถล่มไปแบบเละเทะถึง 5-0 ทำให้หล่นมารั้งบ๊วยของตาราง จากการมีเพียง 5 แต้ม เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องบุกคว้า 3 แต้มให้ได้เท่านั้น
ถัดมาในเวลา 03.15 น. จะเป็นคิวของเกมคู่สำคัญทั้ง 2 คู่ เริ่มที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ที่มี 24 แต้ม หลังบุกพ่าย สาลิกาดง มา 0-1 จะกลับมาเปิดบ้านฟาดแข้งกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่เพิ่งคืนฟอร์มเก่ง ด้วยการเฉือน นกนางนวล 3-2 แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเท่านั้น ทำให้มีเพิ่มเป็น 19 แต้ม รั้งอันดับ 10 ของตาราง ซึ่งถือเป็นศึกใหญ่ ที่แฟนบอลตัวจริงไม่ควรพลาด
ขณะที่เกมอีกคู่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บได้แค่ผลเสมอมา 3 นัดรวด โดยเกมนัดล่าสุด เพิ่งถูก ไก่เดือยทอง ตามตีเสมอในช่วงท้ายเกมแบบน่าเจ็บใจ 3-3 ทำให้มี 30 แต้ม หล่นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง มีคิวต้องบุกไปเยือนทีมฟอร์มแกร่งอย่าง “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่า ที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานได้ดีแบบต่อเนื่อง ทว่าล่าสุด เพิ่งสะดุดทำได้แค่บุกเจ๊า เดอะ เชอร์รี่ส์ 2-2 ทำให้มี 29 แต้ม รั้งอับดับ 4 ของตาราง เกมนี้ทีมแชมป์เก่าจะคืนฟอร์มเก่ง กลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้งหรือไม่ คงต้องรอติดตามไปพร้อมกัน
และปิดท้ายด้วยเกมคู่ดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม เวลา 03.15 น. ชมศึกแห่งศักดิ์ศรี “ลอนดอนดาร์บี้แมตช์” โดย “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 5 ที่เพิ่งบุกไปไล่เจ๊า แบ่งแต้มออกมาจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 3-3 แบบสุดมันส์ ทำให้มี 27 แต้ม จะดวลเดือดกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเปิดบ้านเจ๊ากับ ปราสาทเรือนแก้ว 1-1 ทำให้มี 21 แต้ม รั้งอันดับ 9 ของตาราง เกมนี้ทั้ง 2 ทีม จึงตั้งเป้าที่จะกลับมาคว้า 3 แต้มให้ได้อีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว ทีมใดจะเป็นฝ่ายสมหวัง คงต้องรอลุ้นกันใน 90 นาที
มาร่วมมันส์สะใจไปกับศึกพรีเมียร์ลีก ทุกคู่ ทุกสนาม พร้อมกันได้ที่ TrueID คอบอลตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
“เอกกี้รีพอร์ต”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชัดเจนครบถ้วน! วิธีการดูบอล แพ็กเกจ พรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID
- มันส์สะใจกว่าเดิม! พรีเมียร์ลีก 2023/24 ทรูไอดี มีอะไรใหม่ เอาใจคอบอล
- โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2023/24 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ลิ้งก์ดูบอลสด