และนี่คือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1.เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะ “โรเตชั่น” โดยไม่ส่งผู้เล่นอย่าง อลิสซง เบ็คเกอร์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เทรนต์ “ngam tood” เอเอ, โม ซาล่า และ ลุยส์ ดิอาซ ลงตัวจริง เนื่องจากมีศึกใหญ่กับ อาร์เซน่อล ยักคิ้วให้ในวันเสาร์
แต่ เดวิด มอยส์ กลับจัดผู้เล่นที่ไม่เต็มอัตราศึกมาเยือน แอนฟิลด์ เช่นกัน เหมือนให้ความสำคัญกับเกมวันเสาร์นี้ที่จะเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่า…ซะอย่างนั้น !!!
เฮ่อออออ..อ..อ..อ..อ
2.มองเผินๆ และดูแค่สกอร์ มันเหมือน เวสต์แฮม ไม่ได้มาอุดนะครับ
ถ้าตั้งใจดูเกมอย่างละเอียด คุณจะพบว่า “ขุนค้อน” มาเล่นเกมรับแบบอุดประตูนะครับ แต่อุดไม่อยู่ รถบัสยางแตกตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แถมแสดงความผิดพลาดออกมาเป็นระยะ
พอต้นครึ่งหลังมาโดนอีกดอกเป็น 2-0 มันก็ไม่มีความจำเป็นต้องอุดแล้ว
3.ดาร์วิน นูนเญซ ถูกขยับออกไปเล่นในตำแหน่ง “กองหน้ากึ่งปีกซ้าย” เพื่อลดความคาดหวังเรื่องการทำประตู โดยให้ โคดี้ คักโป สวมบท “หน้าเป้า”
ว่าแล้วก็ประสานงานกับ เคอร์ติส โจนส์ ได้อย่างเข้าขาและรู้ใจ ก่อนจะทำแอสซิสต์ไป 1 ครั้ง
ขนาด ลุยส์ ดิอาซ ลงมา นักเตะที่พวกพรี่ๆ บางคนเรียกว่า “น้องนุ่น” ก็ยังเล่นทางซ้าย และตะบันชนเสาไป 1 โครม เพิ่มสถิติยิงไม่ได้เป็น 11 นัดติดต่อกัน
4.ขวัญใจเด็กหงส์เหมาคนเดียว 2 ดอก แถมฟอร์มการเล่นก็ยังโดดเด่นเป็นสง่า
แบบนี้ควรจะเรียกเขาว่าอะไรดีครับ ???
ระหว่าง
โจนส์ เบลลิ่งแฮม หรือ สตีเว่น โจนส์ราร์ด หรือ เควิน เดอ โจนส์ 😅😅😅
5.แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ตกรอบไปแล้ว แต่โดนลากไปกระทืบเสียเละเลย 55555
น่ากลัวมาก ขอบอก
โบนัส แทร็ค: ย้ำอีกครั้งว่า เวสต์แฮม มาอุดประตูนะครับ กว่าพวกเขาจะได้ยิงครั้งแรก นาทีที่ 70 แต่อุดไม่เป็น อุดไม่อยู่ และผิดพลาด
บอ.บู๋